วันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

Social Bookshelf || หิ้งหนังสือสาธารณะ

socialbookshelf.org

[โครงการนี้เป็นส่วนของไอเดียที่เกิดขึ้นมาจากการจัดงาน #BarcampBKK3]

[วงเล็บแบบนี้คือ ความคิดเห็น/คำอธิบาย เพิ่มเติมโดยตัวผู้แปลเอง]

โครงการทำโลกให้เป็นหิ้งหนังสือขนาดยักษ์ !!

ท่านสามารถ follow @socialbookshelf บน twitter.com สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

Concept มันยังไง

หนังสือ - หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งได้ว่า, แหล่งความรู้ หรือ ข้อมูล, ที่ควรจะเป็นของสังคม. เมื่อคุณอ่านหนังสือจบ, และคุณไม่ต้องการมันอีกแล้ว, คุณสามารถส่งต่อมันให้กับคนอื่นที่ยังต้องการมันอีกได้ต่อ.

อย่างไรก็ตาม, จำนวนคนที่คุณสามารถจะส่งต่อได้นั้นมีจำกัด. มีเพื่อนคุณซักกี่คนกันเชียวที่จะมีรสนิยมหนังสือแบบเดียวกับที่คุณมี ?

หนังสือ, ปึกของกระดาษ, มันสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้, มันดีพอที่ถูกนำกลับมาใช้โดยคนอื่น(ด้วยการอ่าน) , ไม่ได้กลายเป็นกระดาษเช็ดตูด.

How it works? ได้ยังไง

มันจะเชื่อมโยงระหว่างเพื่อนที่ Online และ Offline. คุณอาจจะเป็นคนที่ไม่เคย Online เลยก็ได้, แต่ว่าคุณสามารถที่จะติดต่อกับเจ้าของ(หนังสือ) เก่า Online ได้. [แปลถูกเปล่าวะเหลือภาษาอังกฤษเดิมไว้อิงด้วยละกัน]. คุณสามารถที่จะหาคนที่มีรสนิยมในการอ่านเหมือนกัน ซึ่งเค้าอาจจะกลายมาเป็นเพื่อนที่ดีของคุณได้.

It connects people online and offline. You can be totally offline, but also contact ex-owner online. You might be able to find someone with same taste of reading, the one could be a good friend of you.

[อันนี้น่าจะประมาณว่าต่อให้เราเป็นหนอนหนังสือไม่เคยออนไลน์เลย แต่เมื่อเราเอาหนังสือไปแชร์กัน เราก็อาจจะได้เื่พื่อนแนวเดียวกับเรามากขึ้น โดยที่ไม่จำเป็นว่าเราจะเป็นคนออฟไลน์ หรือคนออนไลน์]

What to do at #BarcampBKK3 เตรียมอะไรกันบ้างก่อนไป

  • เรียงหนังสือเป็นตั้งบนชั้นหนังสือของคุณซะ แล้วดูว่าเล่มไหนคุณอ่านจนเบื่อแล้ว .
  • โหลด stricker นี้ แล้วแปะมันลงบนหนังสือของคุณ
  • นำมันมาที่งาน #BarcampBKK3 , แล้วก็รำลาหนังสือและทิ้งมันไว้.
  • ถ้าคุณเจอหนังสือเล่มที่คุณสนใจจริงๆ, คุณสามารถเอามันไปได้.
  • เมื่อคุณอ่านเสร็จ, ทิ้ง(ไม่ใช่ลงถังขยะนะ) ไว้ที่ไหนซักแห่งเพื่อให้ใครคนอื่นที่ต้องการมันเอาไปอ่านต่อได้.

After #BarcampBKK3 แล้วหลังจากงานล่ะ

เราก็ยังสามารถทำแบบเดิมๆ นี้ได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ใช่แค่ในงาน #BarcampBKK3 เท่านั้น แค่เพียง #BarcampBKK3 เป็นงานที่เหมาะสมที่เราจะลองเริ่มทำแบบนี้กัน เพราะว่าผู้เข้าร่วมงานส่วนใหญ่ของงานนี้เป็น geek และผู้เชี่ยวชาญ นั่นคือพวกเค้าเหล่านั้นจะมีหนังสือดีๆ มากมายที่พวกเขาไม่ต้องการอีกแล้ว

หลังจากงาน #BarcampBKK3 เราสามารถทำแบบนี้ต่อได้ในเมื่อ อาทิเช่น การทิ้งหนังสือไว้ในร้านกาแฟ บาร์ พับ ร้านอาหาร ร้านตัดผม ฯลฯ..

ทุกคนในโลกรู้จัก "BNE" (แต่ผมไม่รู้) แต่ไม่มีใครรู้ว่าจะเริ่มมันอย่างไร และถ้าเกิดว่า socialbookshelf.org ทำให้มันเป็นแบบนั้นได้ มันคง แจ่มน่ัาดู

[ไม่มั่นใจเหลือไว้ให้อิงละกัน]

We can do this anywhere anytime, not only #BarcampBKK3, but #BarcampBKK3 is a good chance to test, because most of barcampers are geeks, techies, there must be many techie books you guys don't need or gave up.

After #BarcampBKK3, we can continue this in the town. leave the books at cafe, bar, pub, restaurant or salon.

Everybody in the world know "BNE" but nobody knows who started it. If socialbookshelf.org become like that... kind of cool.

สนใจสอบถามได้ที่ mossila@socialbookshelf.org

ที่มา http://barcampbangkok.org/wiki/social-bookshelf

6 ความคิดเห็น:

  1. tag เกินครับ สระอิ หน้า barcamp

    ตอบลบ
  2. เหมือนเว็บจาทางการ แต่แอบเหน
    [แปลถูกเปล่าวะเหลือภาษาอังกฤษเดิมไว้อิงด้วยละกัน].
    5555555 55 แจ่มๆๆ ^__________^

    ตอบลบ
  3. น่าสนใจครับ ส่วนตัวผมมีหนังสือที่อ่านครั้งเดียวแล้วไม่แตะอีกเยอะ

    ถ้าเริ่มต้นยังไง ผมอยากจะร่วมด้วยเหมือนกัน

    ปล. แต่ผมอยู่ต่างจังหวัดอ่าาาาา!!

    ตอบลบ
  4. BNE คืออะไรครับ ?
    concept ดีจังแต่กลัวตอนนำไปใช้จริง

    ตอบลบ
  5. Blltz อยากทำก็เริ่มเลยครับเริ่มแถวๆ ที่คุณสะดวกก็ได้ ห้องสมุดน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
    art BNE เป็น street art คือติดทั่วไปหมดแต่ไม่ได้บอกความหมายทำให้คนสงสัยไปเรื่อยๆ ว่ามันคืออะไร ก่อนที่จะเปิดตัวจริงๆ

    ตอบลบ